เหล็กกล้ารับแรงดึงสูงพิเศษ

ทำไมจึงเรียกเหล็กกล้ารับแรงดึงสูงพิเศษ

เหล็กกล้ารับแรงดึงสูงพิเศษเป็นเหล็กอัลลอยด์ประเภทหนึ่งที่ขึ้นชื่อในเรื่องความต้านทานแรงดึง ณ จุดคลาก(Yield Point)ที่สูงมาก ซึ่งโดยทั่วไปจะสูงกว่า690MPa ทำให้สามารถทนต่อความเครียดจำนวนมากได้โดยไม่เสียรูปหรือเสียหายอย่างถาวร ความต้านทานแรงดึง ณ จุดคลาก(Yield Point)ที่สูงเกิดจากการเติมธาตุโลหะผสมต่างๆ เช่น โครเมียม โมลิบดีนัม ซิลิคอน แมงกานีส นิกเกิล และวานาเดียม ซึ่งช่วยเพิ่มความต้านทานแรงดึงและความทนทานของเหล็ก

เหล็กกล้ารับแรงดึงสูงพิเศษ ที่มีค่าYield Strengthไม่ต่ำกว่า690MPa สามารถผลิตได้ผ่านกระบวนการที่แตกต่างกัน 2 กระบวนการคือ การอบชุบแข็งและคืนไฟ (Quenched&Tempered) และกระบวนการควบคุมด้วยความร้อนและบีบอัดที่เรียกว่าThermo Mechanical Control Process(TMCP) กระบวนการทั้งสองมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความเหนียวของเหล็ก แต่ใช้วิธีการที่แตกต่างกันเพื่อให้ได้คุณสมบัติเหล่านี้

• เหล็กกล้ารับแรงดึงสูงพิเศษการชุบแข็งและคืนไฟ(Quenched&Tempered): กระบวนการนี้เกี่ยวข้องกับการให้ความร้อนเหล็กที่อุณหภูมิสูง จากนั้นทำให้เย็นลงในน้ำหรือน้ำมันอย่างรวดเร็ว (การชุบแข็ง) ตามด้วยการให้ความร้อนซ้ำที่อุณหภูมิต่ำลงและทำให้เย็นลงในอัตราที่ช้าลง (การคืนไฟ) การชุบแข็งทำให้เกิดโครงสร้างมาร์เทนไซต์ที่ยังไม่เสถียร และการคืนไฟในภายหลังจะปรับมาร์เทนไซต์ที่ยังไม่เสถียรให้มีความเสถียรมากขึ้นจึงสามารถทำให้เหล็กมีความแข็งและความเหนียวของอยู่ในระดับที่ต้องการ ลีอองจินมีเกรด JFE-Hiten780LEไว้ให้บริการ
• เหล็กกล้ารับแรงดึงสูงพิเศษที่ผ่านกระบวนการThermo Mechanical Cnrol Process(TMCP): TMCP เป็นกระบวนการที่ผสมผสานการรีดแบบควบคุมเข้ากับการททำให้เหหล็กเย็นตัวลงแบบควบคุมเพื่อผลิตเหล็กที่มีโครงสร้างจุลภาคที่ละเอียด เหล็กถูกรีดที่อุณหภูมิสูงแล้วทำให้เย็นลงอย่างรวดเร็ว กระบวนการนี้จะปรับขนาดเกรนและเพิ่มความแข็งแรงและความเหนียวของเหล็กโดยไม่จำเป็นต้องให้ความร้อนเพิ่มเติมหรือการคืนไฟ เหล็กกล้า TMCP มักมีความสามารถในการเชื่อมและขึ้นรูปได้ดีเนื่องจากมีโครงสร้างจุลภาคที่ได้รับการปรับปรุง ลีอองจินมีเกรดPERFORM700ไว้ให้บริการ

ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างเหล็กกล้า Q&T และ TMCP คือ

• โครงสร้างจุลภาค: เหล็กกล้า Q&T มีโครงสร้างจุลภาคมาร์เทนซิติก ในขณะที่เหล็กกล้า TMCP มีโครงสร้างจุลภาคเฟอร์ไรท์หรือเบนไนต์แบบละเอียด
• กระบวนการผลิต: Q&T เกี่ยวข้องกับกระบวนการอบชุบแข็งด้วยความร้อนหลังการรีด ในขณะที่ TMCP รวมการอบชุบแข็งด้วยความร้อนในระหว่างกระบวนการรีด
• คุณสมบัติ: กระบวนการทั้งสองมุ่งหวังที่จะปรับปรุงความแข็งแรงและความเหนียว แต่เหล็กกล้า TMCP ยังเน้นที่ความสามารถในการเชื่อมและการขึ้นรูปที่ดี
• การใช้งาน: เหล็กกล้า Q&T มักใช้ในงานที่ต้องการความต้านทานการสึกหรอสูง ในขณะที่เหล็กกล้า TMCP เหมาะสำหรับโครงสร้างที่ต้องการความเหนียวที่ดีที่อุณหภูมิต่ำ

เหล็กทั้งสองประเภทนำไปใช้ในงานต่างๆ ที่ต้องการความแข็งแรงและความทนทานสูง เช่น ในการก่อสร้าง เครื่องจักรกลหนัก และการต่อเรือ ตัวเลือกระหว่าง Q&T และ TMCP จะขึ้นอยู่กับข้อกำหนดเฉพาะของการใช้งาน รวมถึงคุณสมบัติทางกล ความสามารถในการเชื่อม และการพิจารณาต้นทุน